วิธีหาเทรนด์ธุรกิจและสินค้าเกี่ยวกับสัตว์ในออนไลน์ด้วยตนเอง

รีวิวเครื่องมือฟรี! ในการดูเทรนด์ของธุรกิจ และสินค้าของสัตว์ที่กำลังมีการค้นหาในโลกออนไลน์มากที่สุด เพื่อช่วยวางแผนสร้างรายได้ สร้างธุรกิจของตัวเอง

การติดตามตลาดสินค้าของสัตว์เลี้ยงว่ามีเทรนด์เป็นอย่างไรนั้นมีความสำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจ หรือคนที่สนใจหารายได้เสริม เพื่อให้สามารถวางแผนการตลาดและการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยวิธีการต่างๆ เหล่านี้ เราสามารถค้นหาเทรนด์สินค้าของสัตว์บนออนไลน์ด้วยตนเองได้อย่างง่ายดาย
Share
Share
Share
Email

การติดตามตลาดสินค้าของสัตว์เลี้ยงว่ามีเทรนด์เป็นอย่างไรนั้นมีความสำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจ หรือคนที่สนใจหารายได้เสริม เพื่อให้สามารถวางแผนการตลาดและการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยวิธีการต่างๆ เหล่านี้ เราสามารถค้นหาเทรนด์สินค้าของสัตว์บนออนไลน์ด้วยตนเองได้อย่างง่ายดาย

เลือกเนื้อหาที่ต้องการอ่าน

ทำไมเราต้องรู้เทรนด์สินค้าของสัตว์

ตลาดสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้คนให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น การเข้าใจเทรนด์ล่าสุดของสินค้าสัตว์เลี้ยงนั้นสำคัญมาก เนื่องจากจะช่วยให้คุณสามารถปรับกลยุทธ์การตลาดและการขายให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า คุณจะสามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จของธุรกิจในระยะยาว ทั้งในรูปแบบออนไลน์ หรือออฟไลน์

ความท้าทายในการหาเทรนด์สินค้าของสัตว์ในโลกออนไลน์

รูปแบบการค้นหาข้อมูลสินค้า รีวิวการใช้สินค้า การซื้อ-ขายสินค้าปัจจุบันได้เปลี่ยนมาอยู่บนออนไลน์มากขึ้น ดังนั้นการที่เราทราบว่าผู้คนกำลังค้นหาสินค้าสำหรับสัตว์อะไรอยู่ในขณะนั้นบนโลกออนไลน จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการตลาด วางแผนการขายสินค้าาบนออนไลน์ได้ แต่ปัญหาของมันก็คือจะทราบได้อย่างไรว่าคนกำลังหาอะไรอยู่ หรือพอจะมีเครื่องมืออะไรบ้างในการช่วยหาเทรนด์สินค้าบนโลกออนไลน์? เราไปดูกัน

เทคนิคการหาเทรนด์สินค้าของสัตว์บนช่องทางออนไลน์

การสำรวจเทรนด์สินค้าสัตว์เลี้ยงบนออนไลน์แบ่งการเป็นการดูจาก social media platforms กับ non-social media platforms และนอกจากนั้น non-social media platforms แบ่งออกเป็นจาก Google search กับ non-google search

เราแบ่งวิธีค้นหาเทรนด์สินค้าเกี่ยวกับสัตว์บนโลกออนไลน์ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ

1. Social media platforms

2. Non-social media platforms

Social media platform

เวลาที่คนใช้แต่ละ social media ของประเทศไทยในปี 2024

ที่มาข้อมูล: datareportal

ในปัจจุบันหากต้องการทราบเทรนด์สินค้าหรือหัวข้อที่กำลังได้รับความสนใจบนโลกออนไลน์ สามารถใช้ “Social listening tools” ช่วยค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า บริการ หรือหัวข้อที่สนใจได้ โดย Social listening tools เป็นเครื่องมือที่ช่วยติดตาม และวิเคราะห์การสนทนาบนสื่อสังคมออนไลน์ เช่น การค้นหาคำสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการเกี่ยวกับสัตว์ของเรา ช่วยให้ติดตามกระแส ความสนใจของผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น มีทั้งทดลองใช้งานฟรี และเสียค่าบริการ ขึ้นอยู่กับชนิดข้อมูลที่ต้องการ และช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ที่เครื่องมือนั้นรองรับ หรือเราก็สามารถเข้าไปติดตามอินฟลูเอนเซอร์สัตว์เลี้ยง ติดตามการรีวิวสินค้าของสัตว์เลี้ยงก็จะทำให้เรามองเห็นภาพรวมของสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เพิ่มเติมได้ โดยที่คนไทยส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่บน Social media platfroms สัดส่วน 5 ช่องทางหลัก ได้แก่ Youtube, TikTok, Facebook, Line และ Instagram

Non – social media platforms

สามารถแบ่งกลุ่มของ Non – social media platforms ได้อีก 2 กลุ่มคือ

1. Google search

2. Non-google search

Search engine หลักในประเทศไทยในปี2024

ที่มาข้อมูล: datareportal

Google search

นับว่าเป็น Search engine หลักของคนไทยที่ใช้หาข้อมูลมากที่สุดซึ่งมีสัดส่วนถึง 98% เมื่อเทียบกับทางช่องทางอื่น สามารถใช้เครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์แนวโน้มของคำค้นหาเกี่ยวกับสัตว์ได้ฟรี เช่น Google trends นอกจากนี้ยังสามารถใช้เครื่องมือเพื่อหาว่ามีคนสนใจคำนั้นมากแค่ไหน มีการค้นหาประมาณกี่ครั้งต่อเดือน เช่น Google keyword planner , Ubersuggest, Ahrefs และ Semrush โดยทั้งหมดสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ฟรีจนไปถึงเสียเงินขึ้นอยู่ระดับความต้องการข้อมูลของเรา

Non – google search

นอกจากการค้นหาบน Google แล้ว คนไทยยังใช้งานการค้นหาจากที่อื่น เช่น Bing, Yahoo! และ Yandex (ตามรูป) แม้ว่าจำนวนผู้ใช้จะน้อยกว่า แต่มีเครื่องมือบางตัวที่สามารถติดตามคำค้นหาจากเว็บค้นหาเหล่านี้ได้ เช่น Ahrefs นอกจากนี้แหล่งข้อมูลสำคัญมากสำหรับสินค้าเกี่ยวกับสัตว์ คือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (E-commerce platform) เช่น Shopee Lazada หรืออื่นๆ ซึ่งสามารถดูได้ว่าสินค้าประเภทไหนเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่กำลังอยู่ในกระแสนิยม มียอดขายสูงสุด ข้อมูลเหล่านี้เป็นตัวเลขการซื้อขายจริงในแต่ละแพลตฟอร์ม ช่วยให้เห็นแนวโน้มของกลุ่มสินค้าที่ผู้ขายนำมาวางจำหน่ายและผู้บริโภคต้องการซื้อ

ตัวอย่างในการหาเทรนด์สินค้าสำหรับสัตว์

ตัวอย่างการหาเทรนด์สินค้าสำหรับสัตว์ฟรีโดยใช้ Google trend เช่น เราต้องหาแนวโน้มของ อาหารหมา ขนมหมา อาหารแมว และขนมแมว เพื่อเปรียบเทียบเทรนด์กันทำได้ง่ายๆตามรูป โดยการใช้ Google trend มีขั้นตอนหลัก 3 ขั้นตอนคือ

1. เลือก Keyword ที่ต้องการค้นหา

2. ดูเทรนด์ภาพรวมของคำค้นหา

3. ดูเทรนด์คำอื่นๆที่เกี่ยวกับคำค้นหา

1. เลือก Keyword ที่ต้องการค้นหา 1.1 ใส่คำค้นหาที่เราสนใจ หรือต้องการทราบ 1.2 เลือกประเทศที่ต้องการค้นหา เลือกช่วงเวลาที่เราสนใจ เลือก Categories ที่เราสนใจ และเลือกชนิดของข้อมูลในการค้นหาเช่น Web search, Image search, Youtube search เป็นต้น 2. ดูเทรนด์ภาพรวมของคำค้นหา 2.1 ภาพรวมการค้นหา (Interest over time) จากตัวอย่างก็จะพบว่าตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมาในส่วนของคำว่า “อาหารแมว” ถูกค้นหามากกว่า “อาหารหมา” และในส่วนของ “ขนมแมว” มีการค้นหาใกล้เคียงกับ “ขนมหมา”
(1)

(ภาพ 1)

1. เลือก Keyword ที่ต้องการค้นหา

1.1 ใส่คำค้นหาที่เราสนใจ หรือต้องการทราบ

1.2 เลือกประเทศที่ต้องการค้นหา เลือกช่วงเวลาที่เราสนใจ เลือก Categories ที่เราสนใจ และเลือกชนิดของข้อมูลในการค้นหาเช่น Web search, Image search, Youtube search เป็นต้น

2. ดูเทรนด์ภาพรวมของคำค้นหา

2.1 ภาพรวมการค้นหา (Interest over time) จากตัวอย่างก็จะพบว่าตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมาในส่วนของคำว่า “อาหารแมว” ถูกค้นหามากกว่า “อาหารหมา” และในส่วนของ “ขนมแมว” มีการค้นหาใกล้เคียงกับ “ขนมหมา”

ดูสัดส่วนคำค้นหารายจังหวัด (Compared breakdown by subregion) จาก google trend
(2)

(ภาพ 2)

2.2 ดูสัดส่วนคำค้นหารายจังหวัด (Compared breakdown by subregion)

3. ดูเทรนด์คำอื่นๆที่เกี่ยวกับคำค้นหา

ดูเทรนด์คำอื่นๆที่เกี่ยวกับคำค้นหา ดูภาพรวมแต่ละคำค้นหาว่ามีการค้นหาในแต่ละจังหวัดเท่าไร (Interest by subregion) เพื่อวางแผนในการทำการตลาดกรณีสินค้าเราขายช่องทาง Local ดูคำค้นหาใน google อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหาของเรา (Related queries) ว่าคนกำลังสนใจอะไรเพิ่มขึ้น จากในกรณีนี้คำว่า “อาหารหมา” คำที่เกี่ยวข้องที่เติบโตดีคือ “อาหาร หมาล่า” เพราะว่ามันมีคำว่าอาหารหมา อยู่รวมในคำค้นหาด้วยพอดี ซึ่งเป็นคำที่เราไม่ได้ต้องการเนื่องจากเราต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารหมา ที่เป็นสัตว์เลี้ยง กรณีนี้เราสามารถแก้ไขโดยไปเลือก Category ในข้อ 1.2 ให้เป็นเกี่ยวกับสัตว์โดยเฉพาะ (Pets) เพื่อตัด “หมาล่า” ที่เป็นอาหารของคนออกไป
(3)

(ภาพ 3)

3.1 ดูภาพรวมแต่ละคำค้นหาว่ามีการค้นหาในแต่ละจังหวัดเท่าไร (Interest by subregion) เพื่อวางแผนในการทำการตลาดกรณีสินค้าเราขายช่องทาง Local

3.2 ดูคำค้นหาใน google อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหาของเรา (Related queries) ว่าคนกำลังสนใจอะไรเพิ่มขึ้น จากในกรณีนี้คำว่า “อาหารหมา” คำที่เกี่ยวข้องที่เติบโตดีคือ “อาหาร หมาล่า” เพราะว่ามันมีคำว่าอาหารหมา อยู่รวมในคำค้นหาด้วยพอดี ซึ่งเป็นคำที่เราไม่ได้ต้องการเนื่องจากเราต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารหมา ที่เป็นสัตว์เลี้ยง กรณีนี้เราสามารถแก้ไขโดยไปเลือก Category ในข้อ 1.2 ให้เป็นเกี่ยวกับสัตว์โดยเฉพาะ (Pets) เพื่อตัด “หมาล่า” ที่เป็นอาหารของคนออกไป

ผลลัพธ์ของการรู้เทรนด์สินค้าสัตว์เลี้ยง ช่วยให้พัฒนากลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ และค้นหาช่องว่างทางการตลาดใหม่ๆได้ จากข้อมูลจริงบนโลกออนไลน์

ติดต่อสอบถาม
Writer:teenalytic
Share
Share
Share
Share
Print