คงจะดีไม่น้อยหากเหล่าสัตว์เลี้ยงสามารถบอกเราได้ว่าพวกเขาต้องการอะไร รู้สึกอย่างไร และอยากให้เราช่วยแก้ไขปัญหาแบบไหน เช่นเดียวกับที่เราบอกหมอว่าเจ็บตรงไหน ปวดอย่างไร
แต่เพราะในปัจจุบันยังไม่มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้สัตว์เลี้ยงสื่อสารกับเราได้โดยตรง จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องทำความเข้าใจพวกเขา เพื่อให้การอยู่ร่วมกันเต็มไปด้วยความสุข
เลือกเนื้อหาที่ต้องการอ่าน
พฤติกรรมคืออะไร
หากแปลความตามราชบัณฑิตยสถาน พฤติกรรม ก็คือ การกระทำหรืออาการ ที่แสดงออกทางกล้ามเนื้อ ความคิด และความรู้สึกเพื่อตอบสนองต่อสิ่งเร้า
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็น “การวิ่งในสนามหญ้า” “การคาบลูกบอล” “การหลบไปอยู่บนตู้เสื้อผ้า” “การฝนเล็บ” “การกินอาหาร” หรือแม้แต่ “การนอนอยู่เฉย ๆ” ก็ถือเป็นพฤติกรรมเช่นกัน และแต่ละอย่างก็มีสิ่งเร้า อารมณ์ และแรงจูงใจที่แตกต่างกันซ่อนอยู่เบื้องหลัง
การจะเข้าใจพฤติกรรมที่สัตว์เลี้ยงของเราแสดงออกมานั้น ต้องเริ่มจากการหาสาเหตุที่ทำให้เกิดพฤติกรรม อย่าง สิ่งเร้า และแรงจูงใจ
“สิ่งเร้า” คือ สิ่งที่ทำให้สัตว์เลี้ยงเกิดแรงจูงใจ แบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก
- สิ่งเร้าภายนอก (External Stimulus) คือ สิ่งที่มากระทบจากภายนอกร่างกาย เช่น เสียง คน อาหาร แสง การสัมผัส ฯลฯ
- สิ่งเร้าภายใน (Internal Stimulus) คือ สิ่งที่เกิดจากภายในร่างกายของสัตว์เอง เช่น ความหิว ความเจ็บปวด ความเครียด ฮอร์โมน อารมณ์ต่าง ๆ
“แรงจูงใจ” (Motivation) คือ พลังขับเคลื่อนภายในที่ผลักดันให้กระทำบางอย่าง และจะสิ้นสุดลงเมื่อสัตว์เลี้ยงได้รับในสิ่งที่ต้องการ
เช่น
- แมวได้ยินเสียงไดร์เป่าขน (สิ่งเร้าภายนอก) → เกิดความกลัว (สิ่งเร้าภายใน) → แรงจูงใจในการเอาชีวิตรอดจากอันตราย (แรงจูงใจ) → วิ่งหนี ขู่ ข่วน กัด (พฤติกรรม)
- สุนัขเกิดความรู้สึกหิว (สิ่งเร้าภายใน) → แรงจูงใจในการกินเพื่อความอยู่รอด (แรงจูงใจ) → เดินหาอาหาร (พฤติกรรม)
- เมื่อนกอยู่ในช่วงกลางคืนที่ไม่มีแสง (สิ่งเร้าภายนอก) → สัญชาตญาณในการพักผ่อน (แรงจูงใจ) → หลับ (พฤติกรรม)
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่าทุกพฤติกรรมเกิดจากแรงจูงใจ และแรงจูงใจเกิดจากการถูกกระตุ้นด้วยสิ่งเร้า ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม
การสังเกตพฤติกรรมสำคัญอย่างไร ทำไมเจ้าของจึงต้องรู้จัก
เพราะพฤติกรรมคือสิ่งที่สัตว์สื่อสารออกมาเพื่อบอกความรู้สึกและความต้องการ ณ เวลานั้นของเขา ไม่ว่าจะกับคน สัตว์ หรือสิ่งของ ดังนั้นหากเราในฐานะเจ้าของสัตว์สามารถทำความเข้าใจพฤติกรรมต่าง ๆ ได้ ก็จะช่วยให้
- เกิดสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเราและสัตว์ในแบบที่เราก็โอเค และเขาก็โอเค: เพราะบางครั้งเราอาจเข้าใจผิดว่าเขาชอบสิ่งที่เราทำ แต่ความจริงอาจเป็นตรงกันข้าม การสังเกตเพื่อทำความเข้าใจจึงเป็นสิ่งจำเป็น
- ทำให้การดูแลสุขภาพสัตว์เป็นเรื่องง่ายขึ้น: เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหลายครั้งเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพ เช่น การเข้ากระบะทรายนาน ๆ ของแมว การเดินไถก้นของสุนัข หรือการกินอาหารที่ลดลงของสัตว์บางชนิด
- ป้องกันปัญหาพฤติกรรม: นอกจากโรคภัยที่ทำให้เกิดปัญหาพฤติกรรมแล้ว การไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเขาก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้เช่นกัน ทั้งนี้ ปัญหาพฤติกรรมแบ่งได้เป็น 2 ประเด็น คือ ปัญหาพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยง กับพฤติกรรมที่เจ้าของรู้สึกว่าเป็นปัญหา (แต่เป็นพฤติกรรมปกติของสัตว์) ซึ่งเราจะมาทำความเข้าใจความแตกต่างนี้ในหัวข้อถัดไป
- การปกป้องเขาจากอันตราย: เมื่อเราเข้าใจพฤติกรรมปกติของเขา เราจะสามารถหาแนวทางป้องกันได้ เช่น สุนัขชอบคาบและมักจะกลืนของชิ้นเล็ก ๆ เป็นประจำ เราก็ต้องเปลี่ยนของเล่นให้ชิ้นใหญ่ขึ้น และเลี่ยงการนำสิ่งของเล็ก ๆ ไว้ใกล้เขา
ด้วยเรื่องราวทั้งหมดที่เล่ามานี้ จึงอยากชวนเจ้าของทุกคนมาช่วยกันสังเกตและทำความเข้าใจพฤติกรรมปกติของน้อง ๆ สัตว์เลี้ยงของเรา เพื่อที่เราจะได้รับรู้เมื่อพวกเขามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป
และอย่าลืมย้อนกลับไปหาว่าอะไรเป็นสิ่งเร้าที่กระตุ้นให้พวกเขาแสดงพฤติกรรมที่เรายังไม่เข้าใจ
=======
เพราะทุกพฤติกรรม…มีความหมายซ่อนอยู่
แค่ลองมองจากมุมใหม่
คุณอาจเข้าใจพวกเขามากขึ้น
=======
Writer
น.สพ. ณัฐพร เทียนทอง (นัท)
Content Creator เพจ Animal Mind
Related Posts