กำหนดมาตรฐานดัชนีการผลิตสุกร ตามข้อมูลที่เก็บภายในฟาร์มเอง
สร้างตัวเลขดัชนีการผลิตเองภายในฟาร์มสุกรง่ายๆ ช่วยบริหารจัดการฟาร์มอย่างมีประสิทธิภาพด้วยตนเอง เพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืนของธุรกิจฟาร์มสุกร
การสร้างตัวเลขมาตรฐานของดัชนีการผลิตสุกร (Performance index) ตามข้อมูลที่เก็บภายในฟาร์มเอง เป็นเทคนิคที่ช่วยให้คุณประเมินผลผลิตของฟาร์มสุกรที่แม่นยำและน่าเชื่อถือจากการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ เสริมสร้างแนวทางการบริหารจัดการฟาร์มที่ทรงประสิทธิภาพ และปรับปรุงผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืนในธุรกิจฟาร์มสุกร ท่านสามารถสร้างขึ้นมาเองได้ง่ายๆ ทำอย่างไรไปดูกัน
เลือกเนื้อหาที่ต้องการอ่าน
ประโยชน์ของการเก็บข้อมูลในฟาร์มเพื่อมากำหนดมาตรฐานตัวชี้วัด
การนำข้อมูลดิบที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง สามารถช่วยให้ฟาร์มมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงภายในฟาร์ม ทั้งยังเปิดโอกาสให้สามารถกำหนดแนวทางและตั้งเป้าหมายที่สอดคล้องกับบริบทเฉพาะของฟาร์มได้อย่างแม่นยำ (Data-driven decision making) การใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างชาญฉลาดเช่นนี้ จะส่งผลให้การบริหารจัดการฟาร์มเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อความต้องการที่แท้จริงของฟาร์มได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนของธุรกิจฟาร์มในระยะยาว
ปัญหาของเกณฑ์มาตรฐานทั่วไปเพื่อเป็นตัวชี้วัดภายในฟาร์ม
ค่ามาตรฐานหรือดัชนีที่ใช้เปรียบเทียบประสิทธิภาพการเลี้ยงสุกรในแต่ละบริษัท หน่วยงาน ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สำเร็จรูป หรือผู้เชี่ยวชาญ มักมีความแตกต่างหรือคลาดเคลื่อนกันเล็กน้อย เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับตัวเลขภายในฟาร์มอาจสูงหรือต่ำกว่ามาตรฐาน เนื่องจากบริบทของฟาร์มและค่ามาตรฐานของแต่ละดัชนีมีความแตกต่างกัน เช่น
- Software ที่ใช้ต่างกัน
- สายพันธุ์สุกรต่างกัน
- ภูมิภาคที่เลี้ยงต่างกัน
- สิ่งแวดล้อมที่เลี้ยงต่างกัน
- รูปแบบการจัดการฟาร์มต่างกัน
- วิธีคำนวณมาตรฐานต่างกัน
- ความคิดเห็นผู้เชี่ยวชาญต่างกัน
ปัญหาเหล่านี้ทำให้ฟาร์มถูกจำกัดให้นำผลการเลี้ยงภายในฟาร์มมีเทียบค่ามาตรฐานทั่วไป หรืออิงกับประสบการณ์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเมื่อพัฒนาถึงจุดหนึ่งอาจล่าช้าหรือยากต่อการพัฒนา แต่การนำข้อมูลที่ฟาร์มเก็บมาวิเคราะห์เพื่อหาข้อจำกัดหรือปัญหาของฟาร์มเอง จะช่วยในการวางแผนเพิ่มประสิทธิภาพและใช้ต้นทุนในการพัฒนาได้คุ้มค่ามากกว่าเดิม
คู่มือการจัดการฟาร์มสุกรในการพัฒนามาตรฐานดัชนีชี้วัดภายในฟาร์ม
- กำหนดเป้าหมายดัชนีที่ต้องการเก็บข้อมูล (Setting and observing data)
กำหนดเป้าหมายดัชนีที่ต้องการเก็บข้อมูล และกำหนดมาตรฐานของรูปแบบและวิธีการเก็บข้อมูลให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน - เก็บข้อมูล (Collect data)
เก็บข้อมูลตามพารามิเตอร์ (Parameters) ที่ฟาร์มต้องการนำไปวิเคราะห์ ขั้นตอนการสุ่มเก็บข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นการแจกแจงปกติ (Normal distribution) โดยยึดหลักตามทฤษฎี Central Limit Theorem ซึ่งมีเงื่อนไขหลัก 2 ประการ คือ ข้อมูลต้องเป็นการสุ่มตัวอย่าง และจำนวนที่เก็บต้องมากกว่า 30 ตัวอย่าง
ถ้าใครต้องการศึกษาหลักการนี้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ CLT ก็ตามไปศึกษาได้เลย
3. วิเคราะห์ข้อมูล (Analyzing data)
ทำ Descriptive Statistics เพื่อดูคุณภาพข้อมูลและประสิทธิภาพเบื้องต้น หาค่าผิดปกติ (Outlier) เพื่อนำออกหรือพิจารณารูปแบบความผิดปกติของชุดข้อมูลที่เก็บมา และดูการกระจายตัวของข้อมูลว่าใกล้เคียงการแจกแจงปกติหรือไม่
4. กำหนดเป้ามาตรฐานดัชนีที่ต้องการวัด (Establishing new target)
กำหนดตัวเลขมาตรฐานดัชนีที่ต้องการวัดเฉพาะฟาร์ม โดยตั้งค่ามาตรฐานหรือช่วงของตัวเลขดัชนีภายในฟาร์ม ให้ใช้หลักการของ Central Limit Theorem โดยมาตรฐานที่ตั้งขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแต่ละฟาร์ม
5. ติดตามการเลี้ยงเปรียบเทียบดัชนีอย่างต่อเนื่อง (Ongoing monitoring)
ติดตามผลการเลี้ยง เพื่อตรวจสอบว่าสูง (Above target) หรือต่ำ (Below target)ก ว่าค่าดัชนีที่ฟาร์มตั้งไว้ ในการวางแผนป้องกันหรือพัฒนาตัวเลขดัชนีนั้นๆได้อย่างรวดเร็วเมื่อมีปัญหา
6. ตรวจหาปัจจัยที่เปลี่ยนแปลง (Identifying changing factor)
ตรวจหาปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงเมื่อพบว่าผลของดัชนีสูงหรือต่ำกว่ามาตรฐาน เพื่อเข้าไปตรวจสอบหาปัจจัยที่ทำให้ค่าดัชนีต่างจากมาตรฐาน และนำไปวางแผนต่อไป
7. ทดสอบสมมุติฐาน (Hypothesis testing)
ทดสอบสมมุติฐานหลังจากทราบปัจจัยที่ทำให้ผลการเลี้ยงต่างจากมาตรฐาน โดยทำการทดลองเพื่อหาว่าปัจจัยนั้นเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงจริงหรือไม่ และคุ้มค่า่กับการลงทุนที่ต้องเปลี่ยนแปลงหรือไม่
ตัวอย่างในการกำหนดค่ามาตรฐานของตัวชี้วัด(Performance index) ในเล้าคลอด
ในฟาร์มสุกร A ซึ่งมีขนาด 2,500 แม่สุกร โดยในแต่ละสัปดาห์จะมีแม่สุกรเข้าคลอดประมาณ 100 ตัว ทางฟาร์มได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลดัชนีต่างๆ ภายในเล้าคลอดเพื่อประเมินประสิทธิภาพการทำงานของเล้าคลอด โดยมีการสุ่มเก็บข้อมูลน้ำหนักลูกสุกรแรกคลอดจำนวน 100 ตัว จากแม่สุกรทั้งหมด 100 ตัว เพื่อนำมาสร้างค่ามาตรฐานดัชนีเฉพาะของฟาร์ม ซึ่งสามารถดำเนินการได้อย่างง่ายดายตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ (ตามขั้นตอนหัวข้อที่แล้ว)
- กำหนดเป้าหมายดัชนีที่ต้องการเก็บข้อมูล (Setting and observing data)
เริ่มต้นด้วยการเลือกดัชนีที่ต้องการเก็บข้อมูล ในที่นี้คือ น้ำหนักลูกสุกรแรกคลอด (Birth Weight) - เก็บข้อมูล(Collect data)
ทำการรวบรวมข้อมูลตามดัชนีที่กำหนดไว้ โดยไฟล์จำลองข้อมูลดิบสามารถดาวโหลดไปเปิดใน Excel หรือ Google sheet เพื่อวิเคราะห์ตามได้
3. วิเคราะห์ข้อมูล (Analyzing data):
3.1 Descriptive statistics
Description | Value |
---|---|
Count(N) | 100 |
Sum | 131.94 |
Mean | 1.32 |
Median | 1.31 |
Mode | 1.14 |
Standard Error | 0.04 |
Standard Deviation | 0.45 |
Sample Variance | 0.2 |
Kurtosis | 0.45 |
Skewness | -0.4 |
Range | 2.38 |
Minimum | 0.05 |
Maximum | 2.43 |
Confidence Level(95.0%) | 0.09 |
3.2 หาข้อมูลที่มีค่ามากกว่า หรือน้อยกว่าปกติ (Outlier)
หากไม่เจอค่า Outlier ในชุดข้อมูลที่เก็บมาก็สามารถนำไปวิเคราะห์การกระจายตัวจากข้อมูลได้เลย แต่ถ้ากรณีมีค่า Outlier ดังรูปภาพที่ 2 ให้พิจารณาดังนี้
- นำข้อมูล Outlier ออกจากการคำนวณ หากค่า Outlier นั้นไม่สมเหตุสมผลเกินไป หรือค่าที่ได้น่าจะเกิดจากความผิดผลาด เช่น เครื่องวัดค่าผิดผลาด บันทึกผิดพลาด เป็นต้น
- ไม่นำข้อมูล Outlier ออกจากการคำนวณ หากค่า Outlier นั้นยังมีความสมเหตุสมผลในดัชนีนั้นๆอยู่ หรือ Outlier มีจำนวนไม่มากจนส่งผลต่อการกระจายตัวข้อมูล
- กรณี Outlier มีจำนวนมากจนเกินไป ให้นำออกจากการคำนวณหลัก และนำมาวิเคราะห์หาสาเหตุต่อไป
ในตัวอย่างนี้ เป็นการวัดน้ำหนักลูกสุกรแรกคลอดเป็นกิโลกรัม พบค่า Outlier ที่ 0.1 และ 0.05 กก. ซึ่งเป็นค่าที่ไม่สมเหตุสมผลสำหรับลูกสุกรแรกคลอดที่มีชีวิต จึงควรนำออกจากชุดข้อมูลที่จะใช้คำนวณค่ามาตรฐาน
3.3 ดูการกระจายตัวของข้อมูล
ชุดรูปภาพ 3: กราฟ Histogram แสดงกลุ่มของน้ำหนักสุกรแรกคลอด (kg) ก่อนและหลังนำ outlier ออก
จะเห็นการกระจายตัวของข้อมูลทั้งก่อนและหลังการนำค่าผิดปกติออก ซึ่งใกล้เคียงกับการกระจายแบบปกติ (Normal Distribution) โดยเมื่อนำค่าผิดปกติออกแล้ว ข้อมูลจะมีการกระจายตัวที่ใกล้เคียงการกระจายแบบปกติมากขึ้น ประกอบกับเหตุผลที่กล่าวไปแล้ว จึงควรนำค่าผิดปกติออกจากการคำนวณ
4.กำหนดเป้ามาตรฐานดัชนีที่ต้องการวัด (Establishing new target):
ใช้หลักการของ Central Limit Theorem (CLT) ในการหาค่ามาตรฐานหรือช่วงความเป็นไปได้ของดัชนี
- กรณีที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงปัจจัยการเลี้ยงและสภาวะต่างๆภายในฟาร์ม จะใช้หลัก CLT กับตัวอย่างรายตัว (Individual Sample) โดยใช้ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) เป็นค่าการกระจายตัวของชุดข้อมูล
Empirical rule | ค่า mean ของBW (ไม่นับoutler) | ค่า SD ของ BW (ไม่นับ outlier) | ค่าต่ำสุดของ BW | ค่าสูงสุดของ BW |
---|---|---|---|---|
68 % ของค่าที่เก็บจะอยู่ระหว่าง mean ± 1SD | 1.34 | 0.41 | 0.93 | 1.75 |
95 % ของค่าที่เก็บจะอยู่ระหว่าง mean ± 2SD | 1.34 | 0.41 | 0.52 | 2.16 |
99.7 % ของค่าที่เก็บจะอยู่ระหว่าง mean ± 3SD | 1.34 | 0.41 | 0.11 | 2.57 |
ตัวอย่างจากตาราง 68% ของข้อมูลที่เราเก็บ น้ำหนักลูกหมูแรกคลอดรายตัวที่ชั่งในฟาร์มจะอยู่ในช่วง 0.93 – 1.75 กิโลกรัม และก็จะสามารถบอก percentile ของข้อมูลที่เก็บมาได้ เช่น เราชั่งลูกหมู 1 ตัว ได้ 1.7 kg ก็สามารถบอกได้ว่าหมูตัวนี้อยู่ที่ percentile ที่ 81 หรือง่ายๆคือน้ำหนักแรกเกิดลูกหมูทั้งหมด 100 ตัว หมูตัวนี้อยู่อันดับที่ 81 นั้นเอง
- กรณีที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงปัจจัยการเลี้ยงและสภาวะภายในฟาร์ม จะใช้หลัก CLT กับค่าเฉลี่ยของตัวอย่าง (Mean of Samples) โดยใช้ความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน (Standard Error) ค่าการกระจายตัวของชุดข้อมูล
Empirical rule | ค่า mean ของBW (ไม่นับoutler) | ค่า SE ของ BW (ไม่นับ outlier) | ค่าต่ำสุดของ BW | ค่าสูงสุดของ BW |
---|---|---|---|---|
68 % ของค่าที่เก็บจะอยู่ระหว่าง mean ± 1SE | 1.34 | 0.04 | 1.3 | 1.38 |
95 % ของค่าที่เก็บจะอยู่ระหว่าง mean ± 2SE | 1.34 | 0.04 | 1.26 | 1.42 |
99.7 % ของค่าที่เก็บจะอยู่ระหว่าง mean ± 3SE | 1.34 | 0.04 | 1.22 | 1.46 |
ตัวอย่างจากตาราง 68% ของข้อมูลที่เราเก็บ น้ำหนักลูกหมูแรกคลอดเฉลี่ยจะอยู่ในช่วง 1.3 – 1.38 กิโลกรัม และก็จะสามารถบอก percentile ของข้อมูลที่เก็บมาได้ เช่น เราชั่งลูกหมูแรกคลอดแบบสุ่มได้ค่าเฉลี่ยที่ 1.35 ก็สามารถบอกได้ว่าลูกหมูกลุ่มนี้อยู่ที่ percentile ที่ 59 หรือง่ายๆคือน้ำหนักแรกเกิดลูกหมูทั้งหมด 100 ตัว หมูตัวนี้อยู่อันดับที่ 59 นั้นเอง
หมายเหตุ: เราสามารถตั้งเป้าหมายโดยสร้างเป็นช่วงของค่ามาตรฐานแต่ละดัชนีที่เราสนใจได้เองว่า จะเอาค่าในช่วงที่มั่นใจที่เท่าไร (68-95-99.7%) ขึ้นกับเป้าหมายของแต่ละฟาร์ม
- ติดตามการเลี้ยงเปรียบเทียบดัชนีอย่างต่อเนื่อง (Ongoing monitoring):
5.1 กรณีที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงปัจจัยการเลี้ยงในเล้าคลอด
- ตั้งเป้าหมายเป็น Percentile ของชุดการเลี้ยง หรือตั้งค่ามาตรฐานดัชนีเป็นช่วงเพื่อใช้ตรวจสอบความผิดปกติ เช่น ตั้งมาตรฐานน้ำหนักลูกสุกรแรกคลอดเฉลี่ยอยู่ในช่วง 1.26-1.42 กก./ตัว (ความเชื่อมั่น 95%)
- หากข้อมูลใหม่ที่เก็บได้มีค่าต่ำหรือสูงกว่ามาตรฐานที่ตั้งไว้อย่างมีนัยสำคัญ ต้องตรวจสอบว่ามีการเปลี่ยนแปลงใดเกิดขึ้นหรือไม่ในแต่ละขบวนการของฟารืม เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพของฟาร์ม
5.2 กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงปัจจัยการเลี้ยงในเล้าคลอด
- ตั้งเป้าหมายเช่นเดียวกับกรณีที่แล้ว เพียงแต่ข้อมูลที่ได้ถ้าเป็นกรณีการทดลองมาจะนำเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐานที่ตั้งไว้ เพื่อดูความแตกต่างทางสถิติ (Mean Comparison) และนำไปวางแผนพัฒนาดัชนีของฟาร์มต่อไป
- ตรวจหาปัจจัยที่เปลี่ยนแปลง (Identifying changing factor)
เมื่อพบค่าดัชนีที่ผิดปกติไปจากค่ามาตรฐานของฟาร์มอย่างมาก ทั้งที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงปัจจัยหรือขั้นตอนการเลี้ยงใดๆ จะช่วยให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับไปยังขั้นตอนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในเล้าคลอดได้อย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตหากค่าต่ำกว่าปกติ หรือเพื่อพัฒนาระบบการผลิตให้ดียิ่งขึ้นหากค่าสูงกว่าปกติ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ค่ามาตรฐานนี้เทียบกับค่ามาตรฐานทั่วไปเพื่อช่วยตรวจสอบได้แม่นยำถึงสาเหตุมากยิ่งขึ้นอีกด้วย - ทดสอบสมมุติฐาน (Hypothesis testing)
เมื่อระบุได้ว่าสาเหตุที่ทำให้ค่าดัชนีผิดปกติไปเกิดจากอะไรได้บ้าง ก็สามารถที่จะมาตั้งสมมุติฐานในการทดสอบยืนยันว่า สาเหตุนั้นมีผลทำให้ค่ามาตรฐานเปลี่ยนแปลงไปจริงหรือไม่ เพื่อที่จะได้ทำไปเป็นข้อมูลในการวางแผนปรับปรุงฟาร์มในระยะยาว
ตัวอย่างตัวชี้วัดที่ใช้ประเมินประสิทธิภาพเล้าคลอด
ดัชนี (Performance index) และค่ามาตรฐาน ที่มักพบในการประเมินเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพเล้าคลอด (Benchmarking) ของฟาร์มสุกร นอกจากนี้มีตัวช่วยคำนวณวันคลอดแม่สุกร
ตัวชี้วัด | ความหมาย | ค่าเฉลี่ยมาตรฐาน* |
---|---|---|
Pig weaned/Sow/Year (PSY) | จำนวนลูกหมูหย่านมต่อแม่สุกรต่อปี | >= 24 |
% Culling rate | % แม่สุกรคัดทิ้ง | 35 - 40 % |
% Replacement rate | % แม่สุกรทดแทน | 35 - 40 % |
Pig weaned/litter | จำนวนลูกหย่านมต่อครอก | 11 - 12 ตัว |
Litter/Sow/Year (LSY) | จำนวนครอกต่อแม่สุกรต่อปี | 2.2 - 2.4 ครอก/ปี |
% Farrowing rate | % อัตราเข้าคลอด | 82 - 86% |
Total born (TB) | จำนวนลูกแรกคลอด | 12 - 16 ตัว |
Born alive (BA) | จำนวนลูกเกิดมีชีวิต | 11 - 14 ตัว |
Stillbirth (SB) | จำนวนลูกตายแรกคลอด | 6 - 8% |
Mummies (MM) | จำนวนลูกมัมมี่ | 1 - 2 % |
Preweaning mortality (PWM) | จำนวนลูกหมูตายก่อนหย่านม | < 10-14% |
Wean-to-service interval (WSI) | จำนวนวันหลังจากแม่สุกรหย่านมลูก ถึงวันที่ได้รับการผสมครั้งแรก | 7 วัน |
% Return to service | % การกลับสัดหลังผสม | 7 - 10% |
% Abortion | % แม่แท้งลูก | 1 - 3% |
% Sow dead | % แม่หมูตาย | < 5 % |
% Not-in-pig (NIP) | % ท้องลม | 1 - 2 % |
Age at weaning | อายุลูกสุกรวันอย่านม | 21 - 28 วัน |
Birth weight | น้ำหนักลูกสุกรแรกเกิด | 1.4 - 1.6 kg |
*ค่ามาตรฐานของแต่ละที่มีความแตกต่างกันได้บ้าง
ตัวอย่างตัวชี้วัดที่ใช้ประเมินประสิทธิภาพเล้าผสม
ดัชนีและค่ามาตรฐาน ที่มักพบในการประเมินเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของเล้าผสมของในฟาร์มสุกร
ตัวชี้วัด | ความหมาย | ค่าเฉลี่ยมาตรฐาน |
---|---|---|
% Weaned sows bred by 7 days | % แม่หมูเข้าผสมภายใน 7 วัน หลังหย่านม | 86 - 90 % |
% Multiple matings | % ผสมมากกว่า 1 ครั้งต่อการเป็นสัด | 90 - 94 % |
% Return to service | % การกลับสัดหลังผสม | 7 - 10 % |
% Regular returns to service 18–24 days | % ผสมซ้ำ ปกติของรอบการเป็นสัด | 5 - 7 % |
% Irregular returns to service 25–37 days | % ผสมซ้ำ ผิดปกติของรอบการเป็นสัด | 2 - 3 % |
Gestation length | ระยะเวลาอุ้มท้องเฉลี่ย | 114 - 115 วัน |
% Replacement rate | % ทดแทนแม่สุกร | 30 - 45 % |
% Culling rate | % คัดทิ้งแม่สุกร | 30 - 45 % |
*ค่ามาตรฐานของแต่ละที่มีความแตกต่างกันได้บ้าง
ตัวอย่างตัวชี้วัดที่ใช้ประเมินประสิทธิภาพหมูขุน
ดัชนีและค่ามาตรฐาน ที่มักพบในการประเมินเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสุกรขุน เลขดัชนีขึ้นอยู่กับรูปแบบการเลี้ยงของแต่ละฟาร์ม ซึ่งจะทำให้ค่าของดัชนีแตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงเวลาและสายพันธุ์ได้
- ค่าที่ reference ใช่เป็นแค่ตัวเทียบเท่านั้นเพราะสภาพการเลี้ยงในประเทศไทยก็จะมีความแตกต่างกันในหลายๆปัจจัย
ตัวชี้วัด | ความหมาย | ค่าเฉลี่ยมาตรฐาน* |
---|---|---|
Pig weaned/Sow/Year (PSY) | จำนวนลูกหมูหย่านมต่อแม่สุกรต่อปี | >= 24 |
% Culling rate | % แม่สุกรคัดทิ้ง | 35 - 40 % |
% Replacement rate | % แม่สุกรทดแทน | 35 - 40 % |
Pig weaned/litter | จำนวนลูกหย่านมต่อครอก | 11 - 12 ตัว |
Litter/Sow/Year (LSY) | จำนวนครอกต่อแม่สุกรต่อปี | 2.2 - 2.4 ครอก/ปี |
% Farrowing rate | % อัตราเข้าคลอด | 82 - 86% |
Total born (TB) | จำนวนลูกแรกคลอด | 12 - 16 ตัว |
Born alive (BA) | จำนวนลูกเกิดมีชีวิต | 11 - 14 ตัว |
Stillbirth (SB) | จำนวนลูกตายแรกคลอด | 6 - 8% |
Mummies (MM) | จำนวนลูกมัมมี่ | 1 - 2 % |
Preweaning mortality (PWM) | จำนวนลูกหมูตายก่อนหย่านม | < 10-14% |
Wean-to-service interval (WSI) | จำนวนวันหลังจากแม่สุกรหย่านมลูก ถึงวันที่ได้รับการผสมครั้งแรก | 7 วัน |
% Return to service | % การกลับสัดหลังผสม | 7 - 10% |
% Abortion | % แม่แท้งลูก | 1 - 3% |
% Sow dead | % แม่หมูตาย | < 5 % |
% Not-in-pig (NIP) | % ท้องลม | 1 - 2 % |
Age at weaning | อายุลูกสุกรวันอย่านม | 21 - 28 วัน |
Birth weight | น้ำหนักลูกสุกรแรกเกิด | 1.4 - 1.6 kg |
Nursery pig (7 – 35 kg)
*ค่ามาตรฐานของแต่ละที่มีความแตกต่างกันได้บ้าง
Finishing pig (35 – 110 kg)
ตัวชี้วัด | ความหมาย | ค่าเฉลี่ยมาตรฐาน |
---|---|---|
% Mortality | % การตายสุกรอนุบาล | 4 % |
Feed conversion ratio (FCR) | อัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นน้ำหนักตัว 1 kg | 2.47 |
Average daily gain (ADG) | อัตราการเติบโตเฉลี่ย | 885 กรัม/วัน |
Average weight at start | น้ำหนักเฉลี่ยตอนเริ่มเลี้ยง | 36 กก./ตัว |
Weight of pig produced | น้ำหนักเฉลี่ยที่นำไปขาย | 117 กก./ตัว |
Feeding days per pig | เฉลี่ยวันเลี้ยง | 99 วัน |
Average carcase weight per pig | เฉลี่ยน้ำหนักซาก | 89 กก./ตัว |
*ค่ามาตรฐานของแต่ละที่มีความแตกต่างกันได้บ้าง
Wean-to-finish (7 – 110 kg)
ตัวชี้วัด | ความหมาย | ค่าเฉลี่ยมาตรฐาน |
---|---|---|
% Mortality | % การตายสุกรอนุบาล | 7 % |
Feed conversion ratio (FCR) | อัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นน้ำหนักตัว 1 kg | 2.41 |
Average daily gain (ADG) | อัตราการเติบโตเฉลี่ย | 672 กรัม/วัน |
Average weight at start | น้ำหนักเฉลี่ยตอนเริ่มเลี้ยง | 7.8 กก./ตัว |
Weight of pig produced | น้ำหนักเฉลี่ยที่นำไปขาย | 116 กก./ตัว |
Feeding days per pig | เฉลี่ยวันเลี้ยง | 163 วัน |
Average carcase weight per pig | เฉลี่ยน้ำหนักซาก | 88 กก./ตัว |
*ค่ามาตรฐานของแต่ละที่มีความแตกต่างกันได้บ้าง
เราสามารถตั้งเป้าหมายโดยสร้างเป็นช่วงของค่ามาตรฐานของแต่ละดัชนีในเล้าคลอดที่เราสนใจได้เองว่า จะเอาค่าในช่วงที่มั่นใจที่เท่าไร (68-95-99.7%) ขึ้นกับเป้าหมายของแต่ละฟาร์ม
teenalytic
Related Posts