7 ตัวอย่างงานของ AI ที่เข้ามาช่วยธุรกิจสัตว์และงานสัตวแพทย์
มาลองใช้ AI ง่ายๆด้วยตนเองกับ 7 ตัวอย่างการทำงานที่ใช้ AI มาช่วยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ฉบับปฏิบัติจริงในธุรกิจสัตว์ และงานสัตวแพทย์
ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในหลายสายงาน ไม่เพียงแต่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แต่ยังช่วยลดเวลาในการทำงานได้ แต่ในงานด้านสัตวแพทย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ยังมีการนำ AI ไปใช้งานน้อย และหลายคนยังไม่ทราบถึงประโยชน์ของมัน แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่า AI มาช่วยงานอะไรในสายงานนี้บ้าง? บทความนี้จะแนะนำ 7 งานที่ AI จะเข้ามาช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นในสายงานนี้ มีทั้งแบบที่ฟรีและเสียค่าใช้จ่าย
เลือกเนื้อหาที่ต้องการอ่าน
1.การตอบคำถามทั่วไปเกี่ยวกับสัตว์
ช่วยตอบคำถามทั่วไปๆ (General) เกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยงเบื้องต้น การดูแลสัตว์ปศุสัตว์ โรคสัตว์ และยาสัตว์
AI ที่ใช้งานในการตอบคำถามทั่วไป
คำสั่ง (Prompt) เป็นรูปแบบ Text-to-text
ข้อดีและข้อจำกัดของ AI ที่ช่วยตอบคำถามทั่วไปเกี่ยวกับสัตว์
ข้อดี
- ตอบคำถามได้รวดเร็ว
- ลดเวลาของสัตวแพทย์ในการหาคำตอบทั่วๆไปเกี่ยวกับสัตว์ เช่น ข้อมูลยา กลไกโรค การดูแลสัตว์เบื้องต้น
- ช่วยให้เจ้าของสัตว์เข้าถึงข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสัตว์ หรือการดูแลสัตว์ได้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยให้สัตวแพทย์มีเวลาไปรักษาสัตว์ป่วยที่มีปัญหาซับซ้อนมากขึ้น
ข้อจำกัด
- การใส่คำสั่ง (Prompt) ที่ไม่ดี จะได้คำตอบที่ไม่ตรงกับเนื้อหาที่ต้องการ
- อาจจะมีข้อมูลที่ผิดพลาด (Hallucination) หรือไม่เหมาะสมกับบริบทที่เป็นอยู่
- ขาดความเข้าใจในการรักษาโรคที่ซับซ้อนและต้องใช้ประสบการณ์
- ถ้าเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญมาก ควรหา reference ที่น่าเชื่อถือเพิ่มเติม
สรุปการใช้งาน AI ที่ช่วยตอบคำถามทั่วไปเกี่ยวกับสัตว์
ปัจจุบัน AI แต่ละอันช่วยตอบคำถามเรื่องข้อมูลทั่วไปได้ดี มีความถูกต้องแม่นยำมากขึ้นตามการอัพเดตข้อมูล ทำให้คิดว่าในอนาคตสัตวแพทย์จะมีเวลาพัฒนาตัวเองให้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมากขึ้นเพราะ AI พอจะสามารถช่วยสนับสนุนข้อมูลการรักษาในโรคที่ไม่ซับซ้อนได้ แต่อย่างไรก็ตาม AI ก็ยังทำงานทดแทนในส่วนของหัตถการ และการรักษาที่ซับซ้อนไม่ได้
2. Technical/Product specialist เกี่ยวกับสัตว์
ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลสินค้า/บริการของธุรกิจ และนำความรู้จากแหล่งอ้างอิงต่างๆมาประยุกต์ใช้
AI ที่ใช้งานเพื่อช่วยงาน Technical/Product specialist
คำสั่ง (Prompt) มักเป็นรูปแบบ Text-to-text
ข้อดีและข้อจำกัดของ AI ที่ใช้งานเพื่อช่วยงาน Technical/Product specialist
ข้อดี
- สรุปประเด็นของสินค้าหรือข้อมูลต่างๆในเว็บไซต์/ไฟล์ได้อย่างรวดเร็ว
- ลดภาระงานในการหาข้อมูลทีละหน้าจากหนังสือหรือไฟล์ที่มีอยู่
- ช่วยหาไอเดียใหม่ๆในการพัฒนาสินค้า/บริการของธุรกิจ
- สามารถทำหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญส่วนตัวโดยใช้ Custom GPT หรือ Custom AI อื่นๆ
ข้อจำกัด
- การใส่คำสั่ง (Prompt) ที่ไม่ดี จะได้คำตอบที่ไม่ตรงกับเนื้อหาที่ต้องการ
- Reference ที่ใช้เป็นแหล่งข้อมูลให้ AI ต้องมีความน่าเชื่อถือ และข้อมูลครบถ้วน
- AI ที่เราสามารถสร้างขึ้นมาเอง (Custom AI) จะรับไฟล์ข้อมูลที่ใหญ่เกินไปไม่ได้ในเวลานี้
สรุปการใช้งาน AI ที่ใช้งานเพื่อช่วยงาน Technical/Product specialist:
ตัวอย่างการใช้งานที่ดีอย่างหนึ่งก็คือ จากการที่ต้องหาข้อมูลในไฟล์ทีละหน้า สามารถให้ AI ดึงข้อมูลที่สำคัญจากไฟล์ข้อมูลสินค้า/บริการ ที่มีขนาดใหญ่ออกมาตามคำสั่ง (Prompt) ที่เราต้องการได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังนำมาประยุกต์หาการเชื่อมโยงของข้อมูลมากกว่า 1 ไฟล์ได้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้ Technical team ของแต่ละธุรกิจมีเวลาทำงานอื่นๆมากขึ้น
3. หาข้อมูลวิจัยเกี่ยวกับสัตว์จากแหล่งตีพิมพ์ต่างๆ
ช่วยหาข้อมูลวิจัยที่ตีพิมพ์ที่น่าเชื่อถือ จากปัญหาหรือไอเดียที่เราต้องการทราบ
AI ที่ใช้หาข้อมูลวิจัย
คำสั่ง (Prompt) มักเป็นรูปแบบ Text-to-text
ข้อดีและข้อจำกัดของ AI ที่ใช้หาข้อมูลวิจัย
ข้อดี
- ประหยัดเวลาในการค้นหางานวิชาการ
- ค้นหางานวิจัยตามหัวข้อที่ต้องการทราบ จากหลายแหล่งข้อมูลพร้อมกันได้
- สามารถวิเคราะห์และจัดลำดับวิจัยที่เกี่ยวข้องตามที่ต้องการได้
ข้อจำกัด
- วิจัยอาจไม่ครอบคลุมทุกแหล่งที่มาของข้อมูล โดยเฉพาะงานวิจัยที่เป็นเฉพาะทาง
- AI รวมข้อมูลจากบทคัดย่อ และอาจมีข้อจำกัดในการเข้าถึงงานวิจัยฉบับเต็ม
- ใช้ภาษาอังกฤษในการหาข้อมูลจะมีคุณภาพในการหางานวิจัยมากกว่า
สรุปการใช้งาน AI ที่ใช้หาข้อมูลวิจัย
เหมาะกับการสำรวจไอเดียหรือหัวข้อวิจัยใหม่ เพื่อเป็นตัวช่วยให้เห็นภาพรวมงานวิจัยเบื้องต้นอย่างรวดเร็ว และเห็นความเชื่อมโยงระหว่างงานวิจัยต่างๆได้ชัดเจน อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องพัฒนาทักษะการ prompt เพื่อให้ได้คำตอบที่ตรงตามผลลัพธ์ที่เราต้องการ เช่น การใช้ Technical term ที่ถูกต้อง เป็นต้น
4. ช่วยในการวินิจฉัยโรคสัตว์จากภาพได้ดีมากขึ้น
วิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโรคจากการอ่านภาพถ่ายต่างๆ
AI ที่ช่วยวินิจฉัยโรคสัตว์จากภาพ
ข้อมูลที่ใช้ให้ AI เรียนรู้เป็น Image เพื่อช่วยในการวินิจฉัยภาพ
ข้อดีและข้อจำกัดของ AI ที่ช่วยวินิจฉัยโรคสัตว์จากภาพ
ข้อดี
- วิเคราะห์ผลเบื้องต้นได้รวดเร็ว เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนในการวินิจฉัยโรค
- ลดความ Bias ของผลตรวจ จากความเชี่ยวชาญที่ต่างกันของสัตวแพทย์
- วิเคราะห์ภาพถ่ายรังสี และภาพรอยโรคอื่นๆ เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรค
ข้อจำกัด
- เรื่องการขออนุญาตใช้ข้อมูลสัตว์ป่วยเพื่อให้ AI เรียนรู้
- ใช้คำตอบในการประกอบการวินิจฉัยของสัตวแพทย์เท่านั้น
- ยังมีข้อจำกัดในการวินิจฉัยโรคที่มีความซับซ้อน
- ต้องใช้ข้อมูลให้ AI เรียนรู้จำนวนมาก และมีคุณภาพสูงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือ
- ต้นทุนในการรักษาระบบค่อนข้างสูง
สรุปการใช้งาน AI ที่ช่วยวินิจฉัยโรคสัตว์จากภาพ
AI สามารถเพิ่มความถูกต้องแม่นยำได้ผ่านการเรียนรู้จากข้อมูลใหม่ๆที่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม การใช้ AI เข้ามาช่วยในงานวินิจฉัยของสัตวแพทย์ เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยประกอบการตัดสินใจเบื้องต้น (Data-driven decision making)
5.ช่วยให้คำแนะนำในการรักษาสัตว์ที่แม่นยำขึ้น
แนะนำทางเลือกในการรักษา และทำนายผลการรักษา
AI ที่ใช้เพื่อทำนายผลการรักษาสัตว์
คำสั่ง (Prompt) เป็นรูปแบบ Text-to-text (code)
ข้อดีและข้อจำกัดของ AI ที่ใช้เพื่อทำนายผลการรักษาสัตว์
ข้อดี
- วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประเมินทางเลือกการรักษา และผลการรักษาได้รวดเร็ว
- สัตวแพทย์นำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจเบื้องต้นได้
ข้อจำกัด
- สำหรับผู้พัฒนา AI ควรมีความรู้เกี่ยวกับการสร้าง Model (Coding)
- การขออนุญาตใช้ข้อมูลสัตว์ป่วยเพื่อให้ AI เรียนรู้
- ต้องใช้ข้อมูลให้ AI เรียนรู้จำนวนมาก และมีคุณภาพสูงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือ
- ยังไม่สามารถทดแทนการตัดสินใจของสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ทั้งหมด
- ต้นทุนในการรักษาระบบค่อนข้างสูง
สรุปการใช้งาน AI ที่ใช้เพื่อทำนายผลการรักษาสัตว์
AI ที่ช่วยทำนายผลหรือให้คำแนะนำการรักษาสัตว์ จำเป็นต้องมีข้อมูลจากประวัติที่เคยมีการรักษามาแล้วเพื่อนำมาให้ AI เรียนรู้ซึ่งต้องใช้ข้อมูลที่ถูกต้องและจำนวนมากเพื่อให้ได้ผลที่แม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้การฝึกฝน AI เพื่อทำนายผลอาจจะต้องใช้ความรู้เพื่อใช้ฝึกฝน AI ด้วย เช่น การ Coding เป็นต้น
6. ช่วยสร้างภาพประกอบของสินค้าและบริการเกี่ยวกับสัตว์
สร้างรูปประกอบช่วยในการสื่อสาร การตลาดและโฆษณา
AI ที่ใช้สร้างรูปในธุรกิจและบริการเกี่ยวกับสัตว์
คำสั่ง (Prompt) มักเป็นรูปแบบ Text-to-image
ข้อดีและข้อจำกัดของ AI ที่ใช้สร้างรูปในธุรกิจและบริการเกี่ยวกับสัตว์
ข้อดี
- สร้างภาพได้เร็ว ปรับเปลี่ยนรูปแบบภาพได้ ประหยัดเวลาในการออกแบบ
- สร้างภาพได้หลากหลายตามความต้องการ
- ลดต้นทุนในการจ้างนักออกแบบกราฟิก โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
- ช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดูน่าสนใจ
ข้อจำกัด
- AI บาง platform ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีหรือจำนวนภาพที่มากขึ้น
- ปัญหาด้านลิขสิทธิ์ใน AI บางตัว
- การใส่คำสั่ง (Prompt) ที่ไม่ดีทำให้ไม่ได้ภาพตามที่ต้องการ
สรุปการใช้งาน AI ที่ใช้สร้างรูปในธุรกิจและบริการเกี่ยวกับสัตว์
เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากในการทำงานด้านการออกแบบและการตลาด โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่มีทรัพยากรจำกัด โดยใช้ AI เป็นไอเดียเริ่มต้นในการสร้างรูป อย่างไรก็ตามต้องอาศัยทักษะในการเขียน prompt ที่ดีเพื่อให้ได้ภาพตรงกับที่ต้องการ
7. ช่วยสร้างวิดีโอประกอบของสินค้าและบริการเกี่ยวกับสัตว์
สร้างวิดีโอประกอบช่วยในการสื่อสาร การตลาดและโฆษณา
AI ที่ใช้สร้างวิดีโอ
คำสั่ง (Prompt) เป็น Text-to-video, Image-to-video
ข้อดีและข้อจำกัดของ AI ที่ใช้สร้างวิดีโอ
ข้อดี
- สร้างวิดีโอได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลา
- สร้างเนื้อหาที่หลากหลายตามความต้องการ
- ลดต้นทุนในการจ้างทีมผลิตวิดีโอ โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
- เพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารทางการตลาด และการศึกษาด้วยวิดีโอที่น่าสนใจ
ข้อจำกัด
- คุณภาพของวิดีโออาจไม่สม่ำเสมอ
- ปัญหาด้านสิขสิทธิ์ใน AI บางตัว
- การใส่คำสั่ง (Prompt) ที่ไม่ดีจะได้วิดีโอที่ไม่ตรงตามความต้องการ
สรุปการใช้งาน AI ที่ใช้สร้างวิดีโอ
AI สร้างวิดีโอเหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการผลิตวิดีโอในเวลา และงบประมาณที่จำกัด อย่างไรก็ตาม การใช้งานให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีต้องอาศัยทักษะในการเขียน prompt และการคัดเลือกผลงาน
การใช้ AI มาช่วยในงานเกี่ยวกับสัตว์ ส่วนตัวคิดว่าจะมาช่วยให้เราทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและพัฒนาธุรกิจหรือการรักษาสัตว์ให้ดีมากยิ่งขึ้น
Related Posts